รู้จักกระบวนการเชื่อมพลาสติก และเลือกเครื่องมือให้ถูกงาน

เพราะงานเชื่อมแต่ละแบบ ใช้เครื่องมือไม่เหมือนกัน
ไม่ใช่ทุกงานเชื่อมพลาสติกจะใช้เครื่องมือแบบเดียวกัน
วัสดุที่ต่างกัน ความหนาที่ไม่เท่ากัน หรือแม้แต่พื้นที่หน้างานที่แคบ
ล้วนกำหนดว่า ควรเชื่อมด้วยวิธีไหน และ ต้องใช้เครื่องรุ่นใด

เครื่องมือจาก BAK Switzerland ได้รับการออกแบบให้รองรับกระบวนการเชื่อมทุกประเภท
ตั้งแต่เครื่องเป่าลมร้อนขนาดมือถือ ไปจนถึงเครื่องเชื่อมอัตโนมัติในสายการผลิต
มาดูกันว่ากระบวนการเชื่อมแบบไหนเหมาะกับเครื่องรุ่นใดบ้าง

1️ Automatic Hot Air Welding การเชื่อมด้วยลมร้อน
เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมแบบอัตโนมัติ ที่ใช้ ลมร้อนควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ
เพื่อหลอมวัสดุสองชั้นให้ติดกันโดยมีแรงกดสม่ำเสมอ
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการรอยเชื่อมแนวยาว เรียบ สม่ำเสมอ และทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอก
หัวเป่าลมร้อน (Hot Air Nozzle) ในเครื่องจะส่งความร้อนไปยังแนวต่อของวัสดุ
ในขณะที่ลูกกลิ้งแรงกด (Pressure Roller) จะรีดสองชั้นให้แนบสนิท เกิดเป็นรอยเชื่อมแนว Overlap
เทคนิคนี้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในงาน หลังคาอาคาร กันซึมพื้น หรือผ้าใบอุตสาหกรรม

เครื่องรุ่นที่เหมาะ:
BAK RoofOn / LarOn21 สำหรับระบบหลังคา PVC และ TPO
BAK PlanOn สำหรับงานผ้าใบ, และแบนเนอร์

2️ Hot Wedge Welding การเชื่อมด้วยลิ่มร้อน (สำหรับวัสดุแผ่นหนา)

เทคนิคการเชื่อมแบบ Hot Wedge Welding
เป็นกระบวนการเชื่อมที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเชื่อมต่อของวัสดุที่มี ความหนามาก
หัวใจของเทคโนโลยีนี้อยู่ที่ ลิ่มร้อน (Hot Wedge)
ซึ่งให้ความร้อนโดยตรงผ่าน ฮีทเตอร์แท่ง (Cartridge Heaters)
เทคนิคนี้ใช้แรงกดสูงกว่า เพื่อให้วัสดุหนาหลอมติดแน่น รอยเชื่อมจะแข็งแรงมาก ทนแรงดึงและแรงดันน้ำ ถูกนำไปใช้ในงาน วิศวกรรมโยธา (Civil Engineering) เช่น การเชื่อมแผ่น Geomembrane
หรือวัสดุปูพื้นในโครงสร้างขนาดใหญ่ ที่ต้องการรอยเชื่อมแข็งแรงและทนต่อแรงดันหรือแรงดึงในระยะยาว

เครื่องรุ่นที่เหมาะ:
BAK ComOn2 สำหรับ HDPE ความหนา 1.0-3.0 มม.
BAK ProtOn Wedge สำหรับ HDPE ความหนา 0.5-1.5 มม.

3️ Hot air wedge welding
เป็นการพัฒนาจากหลักการของ Hot Wedge Welding
แต่เปลี่ยนจากการใช้ ลิ่มร้อน (Hot Wedge) มาเป็น หัวเป่าลมร้อน (Hot Air Nozzle)
ซึ่งให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้กับวัสดุที่มีความบางกว่า
นอกจากนี้ หัวเป่าลมร้อนแบบ Hot Air Nozzle
ยังมีข้อได้เปรียบสำคัญเหนือระบบ Wedge แบบโลหะ ตรงที่
สามารถใช้งานได้กับ วัสดุหลากหลายประเภท เช่น PE,PVC,PP,ECB,EVA และ TPO
โดยไม่เกิดปัญหาความเข้ากันของวัสดุ (Material Compatibility)
ในขณะที่ระบบ Wedge Welding
แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกับวัสดุหนาอย่าง HDPE  แต่ ไม่สามารถใช้กับ PVC ได้โดยตรง
เนื่องจากสารระเหยจาก PVC เมื่อถูกความร้อนจะกัดกร่อนลิ่มทองแดงจนเสียรูป โลหะร้อนจากลิ่มทองแดง
เทคนิคนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ งานอุโมงค์ (Tunneling Applications) โดยเฉพาะ
เช่น การเชื่อมแผ่น PVC หรือ TPO waterproofing membrane แต่ยังต้องการรอยเชื่อมแข็งแรงในระดับงานโยธา

เครื่องรุ่นที่เหมาะ:
BAK ProtOn สำหรับ HDPE ความหนา 0.3-1.5 มม.  และ PVC 0.5-1.5 มม.

4️ Hand Welding การเชื่อมด้วยลมร้อน (แบบคลาสสิกและอเนกประสงค์) 
ถึงแม้เครื่องเชื่อมอัตโนมัติจะเข้ามามีบทบาทในงานขนาดใหญ่
แต่ เครื่องเชื่อมมือ (Hand Welder) ก็ยังคงเป็น อุปกรณ์พื้นฐานที่ต้องมีติดหน้างานทุกไซต์
นี่คือเทคนิคที่ใช้แพร่หลายที่สุด เพราะใช้งานง่ายและครอบคลุมวัสดุหลากหลายชนิด เช่น PVC, PP, PE และ ABS
เครื่องเชื่อมมือใช้งานง่าย เหมาะกับทั้ง มือใหม่ที่เริ่มฝึกงานเชื่อม
และ ช่างอาชีพ มันคือสัญลักษณ์ของประสบการณ์และความชำนาญ
ให้ความคุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในด้าน ราคา, การซ่อมบำรุง,
และ ความสะดวกในการใช้งานภาคสนาม พกพาสะดวก เข้าถึงพื้นที่แคบได้ดี
และสามารถเปลี่ยนหัวเป่าได้ตามลักษณะงาน ทำให้ Hand Welding กลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ อยู่ในกล่องเครื่องมือของทุกช่าง ไม่ว่างานนั้นจะเล็กหรือใหญ่ 

เครื่องรุ่นที่เหมาะ:
BAK RiOn รุ่นมาตรฐาน ทนทาน ใช้งานง่าย เหมาะกับงานทั่วไป
BAK RiOn Digital ปรับอุณหภูมิแม่นยำด้วยระบบดิจิทัล เหมาะกับงานที่ต้องการ QC
BAK MarOn ด้ามจับเล็ก น้ำหนักเบา คล่องตัวในพื้นที่จำกัด
BAK LiiOn รุ่นไร้สาย ใช้งานสะดวกในหน้างานที่ไม่มีไฟฟ้า

5️ Extrusion Welding การเชื่อมแบบอัดพลาสติกหลอม (แข็งแรงในระดับโครงสร้าง)
ถ้างานเชื่อมด้วยลมร้อนคือพื้นฐานของช่าง Extrusion Welding ก็คือ ขั้นถัดไปของความแข็งแรง
หลักการของ Extrusion Welding
คือการใช้ ความร้อนหลอมแท่งพลาสติก (Welding Rod) ภายในเครื่อง
ให้กลายเป็นวัสดุหลอมเหลว (Molten Plastic) จากนั้นจึง ฉีดวัสดุหลอมออกมาผ่านหัวเชื่อม (Extrusion Nozzle)
ลงบนบริเวณแนวต่อของชิ้นงานที่ถูกอุ่นด้วยลมร้อนจนพร้อมเชื่อม
ความร้อนจากสองส่วน ทั้งจากภายในวัสดุหลอม และจากลมร้อนภายนอก
ช่วยให้วัสดุทั้งสองฝั่งหลอมรวมกันเป็นเนื้อเดียว
กระบวนการนี้ทำให้ได้แนวเชื่อมที่มีความแข็งแรงสูง
และ ทนแรงดันได้มากกว่า การเชื่อมแบบลมร้อนทั่วไป
เหมาะกับ งานผลิตหรือประกอบขนาดใหญ่ ถังเก็บสารเคมี,
ท่ออุตสาหกรรม, หรือ แท็งก์น้ำที่ต้องรับแรงดัน